/ Knowledge of Health

ภาวะซีดในเด็ก

ภาวะซีดในเด็ก EP.1

โดยนพ.พงษ์วุฒิ ธนะอนันต์มงคล หมอแบงค์

วันนี้เราจะมาพูดถึงภาวะโรคซีดในเด็ก แต่วันนี้คุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกอายุไม่เกิน 3 ปี แนะนำให้ดูจนจบเพราะพบเยอะมากและสำคัญมากในปะเทศไทย เพราะภาวะซีด หรือ ขาดธาตุเหล็กในเด็กพบได้ถึง 15-20% ของประชากรเราจะทราบได้อย่างไรว่าลูกของเราซีดไหม ขาดธาตุเหล็กหรือเปล่า หรือต้องกินยาอะไรไหม คลิปที่ผ่านๆมาคุณหมอก็จะมาให้ความรู้เป็น

Q&A เอาคำถามจากคุณพ่อคุณแม่ในห้องตรวจ หรือสอบถามเข้ามาทางInbox เอามาแชร์กัน วันนี้หมอจะเป็นคนตั้งคำถามบ้าง อย่างที่เราทราบกันธาตุเหล็กมันอยู่ในพวกเนื้อสัตว์ เครื่องใน ไข่แดง แล้วลูกของเราเนี่ย เช่นเด็ก 5 เดือนที่ยังไม่เคยกินข้าวเลย เพราะเด็ก 6 เดือนทานแต่นม หรือเด็ก 6 เดือนกว่าๆ ถึง 7 เดือน ที่กินข้าววันละมื้อ เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเค้าขาดธาตุเหล็กหรือเปล่า ยังไม่ต้องกังวล เดี๋ยววันนี้เรามีคำตอบให้ สาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะซีดในเด็ก คือ

1. การขาดธาตุเหล็กเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ซีด

2. คือเป็นธารัสซีเมีย ก็จะได้จากการซักประวัติ พ่อหรือแม่เป็นธารัสซีเมีย หรือเป็นพาหะธารัสซีเมีย

3. เด็กวัยเริ่มมีประจำเดือน หรือมีภาวะเป็นพยาธิหรือมีเลือดออกในลำไส้เรื้อรัง

 

ภาวะซีดในเด็ก EP.2

โดยนพ.พงษ์วุฒิ ธนะอนันต์มงคล หมอแบงค์

หัวข้อแรกที่เราจะพูด คือการขาดธาตุเหล็ก อย่างที่คนเข้าใจคือ ขาดธาตุเหล็กแล้วทำให้ซีด แต่รู้หรือเปล่าว่า มันมีสารอาหารหรือวิตามินอย่างอื่นด้วย ว่าถ้าเราขาดก็จะทำให้ซีดเช่นกัน เช่น วิตามิน C , วิตามิน B6 , วิตามิน B12 , Folicacid ไม่ได้มีเพียงธาตุเหล็กที่พอเราขาด แล้วจะทำให้ซีด การขาดธาตุเหล็กแล้วซีดจะมีอาการดังต่อไปนี้ คือ น้ำหนักไม่ค่อยขึ้น ร่างกายอ่อนเพลีย หรือบางคนมีอาการเหนื่อยง่าย วิงเวียนเป็นลม เด็กบางคนจะเริ่มสังเกตว่าเรียนไม่ทันเพื่อน สมาธิสั้น หรืออารมณ์หงุดหงิดง่าย เหล่านี้ล้วนเป็นอาการซีด หรือขาดธาตุเหล็ก บางคนตรวจร่างกายก็จะพบว่าซีดเลย หรือน้ำหนักน้อย ฟังเสียงหัวใจได้ยินเสียงที่ผิดปกติ หรือตรวจที่ลิ้นจะพบว่า ภาวะลิ้นเลี่ยน คือบริเวณลิ้นจะไม่ค่อยมีตุ่ม

 

ซีดในเด็ก EP.3

ความเสี่ยงของการซีด มีใครบ้าง ?

1.ทารกที่มีอายุมากกว่า 6 เดือน ที่ได้รับนมแม่เพียงอย่างเดียว หรือได้รับนมที่ไม่ได้เสริมธาตุเหล็กอย่างอื่นเลย (เด็กที่เลย 6 เดือนที่กินแต่นม)

2.เด็กที่มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว เช่น เด็กก่อนวัยเรียน หรือ วัยรุ่น กลุ่มนี้ก็จะเสี่ยงต่อการขาดธาตุเหล็ก

3.ทารถที่เกิดก่อนกำหนด

4.ทารกที่มีน้ำหนักแรกเกิดน้อยกว่าปกติ หรือ เด็กที่เป็นโรคหัวใจชนิดเขียวตั้งแต่กำเนิด เด็กที่มีปัญหาเลือดออกในช่วงกำเนิด เด็กที่มีการเจริญเติบโตช้ากว่าวัย

5.หญิงตั้งครรภ์ หรือเด็กที่ได้รับอาหารที่ขัดขวางการดูดซึมธาตุเหล็ก เช่น น้ำชา

6.ทารกที่คลอดจากมารดาที่มีโรคประจำตัว เช่น โลหิตจาง เบาหวาน ความดัน ต่างๆ ก็จะเสี่ยงทำให้ทารกที่เกิดออกมาซีดกว่าเด็กปกติได้

7.สุดท้ายก็คือการที่มีบิดา มารดา หรือพี่น้องเป็นพาหะธาลัสซีเมีย ดังนั้นในกรณีที่ เด็กที่มีภาวะซีดมากๆ เราก็จะทราบจากอาการดังกล่าว

ในกรณีที่ซีดน้อยๆ เราจะรู้ได้อย่างไร จพเจาะเลือดเมื่อไหร่ หรือต้องหาธาตุเหล็กมาทานเลยมั๊ย คุณพ่อคุณแม่ ที่มีลูกที่อยู่ในช่วงอายุดังต่อไปนี้ แนะนำให้มาตรวจเลือด 1.ช่วงอายุ 6-9 เดือน ในราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย แนะนำให้ตรวจเลือด 2 ครั้งคือ

1 ช่วง 6-9 เดือน

2.ช่วง 3-6 ปี

3.ส่วนในเด็กผู้หญิง ที่มีอายุ 11-21 ปี (เข้าสู่วัยรุ่น) ก็จะมีความเสี่ยงต่อการซีด เช่น มีประจำเดือน หรือบางคนห่วงเรื่องหุ่น จะมีการไดเอท งดอาหารต่างๆ เพราะฉะนั้นกลุ่มนี้ก็จะมีความเสี่ยงต่อการขาดธาตุเหล็ก

 

ภาวะซีด EP.4

กลุ่มเสี่ยงภาวะซีด มีใครบ้าง ?

ถ้าเป็นสาเหตุของธาลัสซีเมีย ส่วนมากจะสกรีนตั้งแต่ตั้งครรภ์ เช่น คุณพ่อคุณแม่เป็นพาหะหรือเปล่า ในกรณีแบบนี้ คุณหมอก็จะมีนัดตรวจติดตามเป็นระยะอยู่แล้ว และเวลาเจาะเลือดตามช่วงอายุที่คุณหมอบอกไป ก็สามารถรู้ผลได้อย่างรวดเร็วว่า เด็กคนนี้เริ่มมีภาวะซีด เม็ดเลือดแดงรูปร่างเล็กหรือเปล่า การใช้ยาเสริมธาตุเหล็ก ในเรื่องของยาเสริมธาตุเหล็กจำเป็นไหม ที่จะต้องซื้อมาทานเลยในช่วง 6 เดือนแรกหรือว่าดูคลิปนี้เสร็จไปซื้อเลย ยังไม่ต้องครับ เหตุผลคือ เวลาทานยาธาตุเหล็กจะไม่เหมือนยาลดไข้ ยาลดเสมหะ ยาลดน้ำมูก อื่นๆที่ส่วนมากจะใช้วิธีกะครึ่งช้อนชา หรือช้อนชา เพราะยาธาตุเหล็กอันตรายมาก รายละเอียดมีดังนี้

1.เวลาที่ทานยาธาตุเหล็กเกินขนาด ส่งผลเสียได้ ในบางรายทานเยอะขนาดเป็นอันตรายต่อตับและไตได้

2.เวลาทานยาธาตุเหล็ก มีข้อห้ามคือห้ามทานพร้อมอาหาร เพราะจะขัดขวางการดูดซึม คนไข้เคยทานยาธาตุเหล็กหลังอาหาร ผ่านไปประมาณ 3 เดือน ผลเลือดเหมือนเดิม ไม่หายซีด และมาสอบถามประวัติสรุปคนไข้ทานพร้อมอาหารเลย เพราะฉะนั้นกลายว่ากินฟรี ไม่ดูดซึม

3.การทานยาธาตุเหล็กจะมีผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ อาเจียนต่างๆ แต่ไม่ต้องกังวล การที่เรามาตรวจเลือดกับทางโรงพยาบาลคุณหมอจะมีการแนะนำ เน้นย้ำในเรื่องวิธีการทานยาธาตุเหล็กอยู่แล้ว

4. ยาธาตุเหล็กที่สำคัญคือห้ามกะ เช่น ครึ่งช้อนชา (ไม่ได้นะครับ) ต้องคำนวนเป๊ะๆตามน้ำหนัก อันนี้สำคัญมาก และเวลาที่เด็กมีน้ำหนักมากขึ้นเรื่อยๆ เจริญเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ ก็จะต้องมีการใช้น้ำหนักใหม่ขึ้นเรื่อยๆ คำนวนปริมาณยาให้เพิ่มขึ้น ไม่ใช่ให้กินยาตามปริมาณเดิมไปตลอด และเวลาที่ทานยาธาตุเหล็กในเด็กซีด ไม่ได้นัดมาเจาะเลือดทุกอาทิตย์ แต่จะนัดมาทุก 3 เดือน เพราะว่าเม็ดเลือดแดงของคนเราจะผลิตขึ้นมาใหม่ทุกๆ 3 เดือน สุดท้ายเรื่องของอาหาร การรักษาภาวะขาดธาตุเหล็ก เน้นย้ำมากๆ ในคุณแม่ คือ

1.ไข่แดง

2.เนื้อสัตว์ เครื่องใน

3.และพวกอาหารทะเล เป็นต้น

           โดยอาหารเหล่านี้มีธาตุเหล็กเยอะมาก ในกรณีที่เด็กซีด ไม่จำเป็นต้องทานยาธาตุเหล็กไปจนเข้าสู่วัยรุ่น แต่จะให้ทานในช่วงที่ 1 ผลเลือดผิดปกติ ระหว่างรอที่ให้เด็กทานอาหารที่มีธาตุเหล็กเองได้ดี หลังจากนั้นเมื่อตรวจติดตามผลเลือดอยู่ในเกณฑ์ที่ปกติ คุณหมอก็จะค่อยๆลดปริมาณยา และเอายาออกไปในที่สุด สุดท้ายคุณพ่อคุณแม่ยังไม่ต้องเป็นกังวลว่าลูกจะซีดแล้ว หรือรักษาไม่ทัน คุณหมอให้หลักดังต่อไปนี้

1.คุณพ่อคุณแม่ที่ดูคลิปอยู่ มีลูกที่ในช่วงอายุตามเกณฑ์ที่คุณหมอได้กล่าวไปแล้ว สามารถมาตรวจเลือดได้เลย เพราะว่าถ้าตรวจเจอได้เร็ว ทานยาธาตุเหล็กเร็ว จะรักษาหายได้เร็วแน่นอน เพราะการทานยา ไม่ได้ทาน 1 สัปดาห์แล้วหายซีด แต่ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 เดือนแถมต้องติดตามอาการ ทานยาไปแล้วมีผลข้างเคียง เช่น อาเจียน หรือเปล่า

2.ในรายที่รับวัคซีนกับทางโรงพยาบาลหรือตรวจติดตามกับทางโรงพยาบาลอยู่แล้ว คุณหมอทุกท่านจะช่วยเน้นย้ำเตือนตรงนี้อยู่แล้ว ไม่ต้องเป็นกังวล

 

สำหรับแฟนเพจรายใหม่ที่พึ่งเข้ามากด LIKE หรือมาเจอกันในคลิปนี้ ก็สามารถที่จะศึกษาข้อมูล พบว่าถ้าลูกอยู่ในเกณฑ์ดังกล่าวสามารถเข้ามาตรวจได้เลย ทางโรงพยาบาลเรายินดีให้บริการ สุดท้ายเน้นย้ำ ห้ามซื้อยาธาตุเหล็กทานเอง หรือกะขนาดทานเองโดยเด็ดขาด เพราะเป็นอันตรายต่อลูกได้ สำหรับรายที่มีคำถามหรือข้อสงสัยเพิ่มเติมสามารถมาปรึกษาแพทย์ได้ครับ"

โทรหาเราได้ที่

033-050-600

พร้อมบริการทุกวัน 24 ชม.

หากท่านมีข้อคำถาม หรือต้องการให้คำแนะนำ ติชม

สามารถกรอกแบบฟอร์มเพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่



โรงพยาบาลรวมแพทย์ฉะเชิงเทรา จำกัด

88/122-123 หมู่ 13 ถนนฉะเชิงเทรา-พนมสารคาม ตำบลบางตีนเป็ด

อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา 24000

โทรศัพท์ : 033-050-600 แฟกซ์ : 033-050-690