โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
คือกลุ่มโรคที่ติดต่อจากคนหนึ่งสู่อีก
คนหนึ่งจากการร่วมเพศ บางโรคอาจ
ติดต่อกันโดยการสัมผัสหรือการถ่าย
ทอดเชื้อจากแม่สู่ลูกขณะอยู่ในครรภ์
แบ่งตามลักษณะอาการ ดังนี้
- แผล ได้แก่ ซิฟิลิส แผลริมอ่อน เริมอวัยวะเพศ
- ฝี ได้แก่ กามโรคของต่อมและท่อน้ำเหลืองหรือฝีมะม่วง
- หนอง ได้แก่ หนองใน หนองในเทียม อื่น ๆ ได้แก่ หูดหงอนไก่ หูดข้าวสุก พยาธิช่องคลอด เชื้อราช่องคลอด โลน หิด

ซิฟิลิส (Syphilis)
สาเหตุ เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ชื่อ Treponema pallidum
ระยะฟักตัว ประมาณ 10-90 วัน
อาการ
ระยะที่ 1 มีแผลที่อวัยวะเพศหรือที่อื่นๆ แผลไม่เจ็บและหายเองได้แม้ไม่ได้รับการรักษา
ระยะที่ 2 มีผื่นขึ้นตามลำตัว ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ไม่เจ็บ ไม่คัน ผมร่วง ฯลฯ ระยะนี้
ถ้าตรวจเลือด จะพบ “เลือดบวกซิฟิลิส”
ระยะที่ 3 หากปล่อยทิ้งไว้ไม่ได้รับการรักษา โรคจะลุกลามทำลายอวัยวะที่สำคัญ
เช่น หัวใจ หลอดเลือด สมองกระดูก ทำให้พิการ และตายได้
ซิฟิลิสกรรมพันธุ์ มารดาที่ติดเชื้อซิฟิลิสขณะตั้งครรภ์อาจแท้ง ทารกตายในครรภ์
หรือให้กำเนิดทารกที่เป็นโรคซิฟิลิส เด็กที่รอดชีวิตอาจดั้งจมูกยุบ ปากแหว่ง
เพดานโหว่ ตาบอด

แผลริมอ่อน (Chancroid)
สาเหตุ เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ชื่อ Heamophilus ducreyi
ระยะฟักตัว ประมาณ 3-7 วัน
อาการ
ผู้ชาย - จะมีตุ่มหนองเกิดขึ้นที่อวัยวะเพศ ต่อมาแตกเป็นแผล มักมีหลายแผล
ขอบไม่แข็งและไม่เรียบ มีเลือดออกเจ็บปวดมาก บางคนต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบ
บวมเป็นฝี เมื่อฝีแตกจะเป็นฝีใหญ่
ผู้หญิง - ส่วนใหญ่จะมีอาการเช่นเดียวกับผู้ชาย แต่ถ้ามีแผลที่ผนังช่องคลอด
หรือปากมดลูกก็อาจไม่มีอาการหรือมีตกขาว ปัสสาวะขัด หรือเจ็บเวลาร่วมเพศ

หนองใน (Gonorrhoea)
สาเหตุ เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ชื่อ Neisseria gonorrhoea
ระยะฟักตัว ประมาณ 3-5 วัน
อาการ
ผู้ชาย - จะมีอาการปัสสาวะขัด แสบ มีหนองไหลจากท่อปัสสาวะ หากไม่ได้รับ
การรักษาเชื้อจะลงไปสู่ถุงอัณฑะ ทำให้เกิดอาการอัณฑะอักเสบอาจทำให้เป็นหมันได้
ผู้หญิง - ส่วนใหญ่ไม่มีอาการ หากมีอาการจะมีตกขาวมากผิดปกติ บางครั้ง
มีหนองปนออกมา ปัสสาวะแสบขัด ปวดท้องน้อย บางรายอาจมีฝีเกิดขึ้นบริเวณ
อวัยวะเพศ ถ้าไม่ได้รับการรักษาอาจ กลายเป็นหมันหนองในที่ตา เกิดได้ในกรณีที่
สัมผัสกับ เชื้อโดยตรง เช่น มือสัมผัสกับหนองแล้วเผลอป้ายตา หรือทารกที่
คลอดผ่านช่องคลอดของมารดาที่มีเชื้อหนองใน ถ้าไม่รักษาอาจทำให้ตาบอดได้

หนองในเทียม (Non-Specific Urethritis)
สาเหตุ เกิดจากเชื้อโรคหลายชนิด แต่ส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย
ชื่อ Chlamydia trachomatis
ระยะฟักตัว ประมาณ 1-4 สัปดาห์
อาการ
ผู้ชาย - จะมีอาการแสบหรือคันที่ท่อปัสสาวะ ปัสสาวะขัด
อาจมีมูกใสหรือมูกขุ่น มักพบตอนตื่นนอน
ผู้หญิง - ส่วนมากมักไม่มีอาการ ส่วนน้อยอาจมีตกขาว
คำแนะนำขณะป่วยและรักษา
- ในผู้ชายไม่ควรรีดอวัยวะเพศเพื่อดูหนองเพราะจะทำให้เกิดอาการอักเสบมากขึ้น
- ไม่ควรซื้อยารักษาตนเอง ควรตรวจรักษากับแพทย์เท่านั้น เพราะอาจทำให้เชื้อดื้อ
ยารักษาไม่หาย
- ควรงดร่วมเพศ รวมทั้งสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง เพื่อป้องกันการแพร่กระจาย
ของโรค
- ควรงดดื่มเหล้า-เบียร์และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด
- ไปรับการตรวจตามนัดทุกครั้ง และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
- ควรพาคู่นอนไปตรวจโดยเร็วที่สุด
- เมื่อตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ควรเจาะเลือดตรวจหาเชื้อเอชไอวีด้วย
- ผู้ป่วยชายควรกลั้นปัสสาวะก่อนมาตรวจอย่างน้อย 4 ชั่วโมง
- รักษาอวัยวะเพศและบริเวณใกล้เคียงให้สะอาดและแห้งอยู่เสมอ