ผดร้อน และท้องร่วง (กระเพาะและลำไส้อักเสบ)
ผดร้อน และท้องร่วง (กระเพาะและลำไส้อักเสบ)
1. ผดร้อน เนื่องจากอากาศในช่วงนี้ร้อน บางวันมีฝนตก ก็จะทำให้มีอากาศทั้งร้อนและชื้น เด็กก็จะพยายามหลั่งเหงื่อระบายความร้อน ปัญหา คือ เหงื่อที่หลั่งออกมาในบางรายจะมีการอุดตันบริเวณต่อมเหงื่อเกิดขึ้น (เหงื่อออกมาไม่ได้) ผิวหนังเด็กจะมีตุ่มนูน ทั้งตุ่มนูนแดง และตุ่มนูนใส จึงเรียกว่า ผดร้อน วิธีการปฏิบัติตัวที่เด็กเป็นผดร้อน
- มีความรุนแรงระดับน้อย บริเวนไหล่ คอ แผ่นหลัง ให้ใส่เสื้อผ้าที่ระบายความร้อนได้ดี หลีกเลี่ยงการไปสัมผัสแสงแดด หรือออกไปข้างนอกช่วงเวลากลางวัน ถ้าจำเป็นต้องออกข้างนอก ให้ใส่เสื้อผ้าที่มิดชิดไม่ให้โดนแสงแดด ใส่หมวกปีกกว้าง
- ในกรณีที่เด็กมีผื่นเยอะมาก ไม่ควรซื้อยาทาเอง ให้เข้ามาพบปรึกษาแพทย์ เพราะในบางรายต้องทายา เช่น ให้สเตียรอยด์ในการทา ซึ่งปริมาณสำหรับเด็กกะประมาณไม่ได้ ตัวยาจะมีหลายความเข้มข้นไม่ควรเลือกใช้เอง ควรผ่านการแนะนำของกุมารแพทย์ ที่สำคัญ การรักษาที่ดีที่สุดคือการป้องกัน คือ นอกจากการหลีกเลี่ยงอากาศร้อน อากาศอับชื้น เสื้อผ้าต้องโปร่ง ในบ้านต้องคุมอุณหภูมิให้ดี ไม่อบอ้าวจนเกินไป เปิดหน้าต่าง เปิดพัดลมเพื่อระบายอากาศ
2.อาการท้องร่วง เนื่องจากอากาศร้อน แบคทีเรียในอาหารจะแบ่งตัวกันเร็ว เสียเร็ว และมีฝนตก เชื้อไวรัสมาตามอากาศ ปะปนกับมือเด็กที่หยิบของเข้าปาก หรือหยิบอาหาร เพราะฉะนั้นช่วงนี้เด็กจะท้องเสียบ่อยมาก โดยท้องเสียมีหลายอาการ เช่น
- ไข้
- อาการร่วม เช่น ในบางรายไม่มีไข้แต่ถ่ายออกมาเป็นเลือด อาเจียนไม่หยุด ปวดท้องรุนแรง จำเป็นต้องเข้าพบแพทย์ ไม่ควรซื้อยาทานเอง
- สมดุลน้ำ บางรายไม่มีไข้ ถ่ายเหลว 2 รอบ แต่ไม่ทานน้ำเลย การขาดน้ำจะทำให้เด็กมีปัญหาเกี่ยวกับไต ทำให้ไตวายได้ การปฏิบัติตัวในช่วงนี้ นอกจากล้างมือก่อนและหลังการรับประทานอาหาร ควรใช้ช้อนกลาง หลีกเลี่ยงและสังเกตไม่ให้เด็กเอามือเข้าปาก ควรทำความสะอาดมือเด็กบ่อยๆ ของเล่นต่างๆ และที่สำคัญคือทานอาหารที่สุก สะอาด ในกรณีที่บุตรมีอาการถ่ายเหลวในวันแรก อาจจะสังเกตอาการก่อนได้ เช่น ถ่าย 1-2 รอบไม่เป็นอะไร แต่ถ้าเด็กเริ่มมีอาการผิดแปลก เช่น ไข้สูง ไม่ทานเลย มีอาการร่วมรุนแรง เช่น ปวดบิด ปวดท้อง อาเจียนไม่หยุด ถ่ายออกมาเป็นมูกเลือด ถ้ามีอาการเหล่านี้ แนะนำให้เข้าพบปรึกษาแพทย์