: สามารถมองเห็นตัวของมดลูกได้ค่อนข้างชัด ดูพยาธิในตัวมดลูกได้ว่า มีเนื้องอกมีอะไร หรือป่าวและยังสามารถดูพยาธิของตัวรังไข่ได้ ว่ารังไข่มีปัญหาผิดปกติหรือไม่ เช่น ซีสต์ !

ส่วนใหญ่ผู้หญิงที่จะมาอัลตร้าซาวด์มักจะมาด้วยมีอาการก่อน เช่น คลำเจอก้อนที่หน้าท้อง / ประจำเดือนผิดปกติ / ปวดท้องน้อย / ปวดท้องประจำเดือน หรือบางคนมีประจำเดือนผิดปกติคู่กับมีเรื่องของภาวะฮอร์โมนเพศชายเยอะ มีหนวดขึ้น สิวขึ้น ส่วนใหญ่มาอัลตร้าซาวด์ดูก็อาจจะเจอ *ภาวะเรื่องของถุงน้ำรังไข่หลายใบ หรือ โรค ‘PCOS‘ ได้ เครื่องนี้จะช่วยในการวินิจฉัยได้ค่ะ

 

: ของทางนรีเวช จะเป็นการตรวจใต้สะดือลงไป ตัวนี้เราก็จะใช้อัลตร้าซาวด์ดู มดลูก รังไข่ ได้เหมือนกัน

: แต่จะใช้ในกรณีที่บุคคลหน้าท้องเล็ก ๆ หรือที่เป็นเด็ก เพราะถ้าเกิดเด็กน้อย เราก็จะไม่ได้ใช้เครื่องอัลตร้าซาวด์ภายใน เราก็อาจจะใช้เครื่องอัลตร้าซาวด์ทางหน้าท้อง คะ

: !! แต่ข้อจำกัดของตัวนี้ก็คือ จะมีการบดบังได้ของตัวกล้ามเนื้อ ไขมันหน้าท้อง หรือ ตัวลำไส้ เพราะฉะนั้นถ้าเกิดว่าอยากเห็นชัด ๆ ก็จำเป็นต้องใช้ #Transvaginal (อัลตร้าซาวด์ช่องคลอด) แต่ถ้าเกิดว่าพอเห็นโครงสร้าง ลักษณะพอวินิจฉัยได้ก็ใช้ #Transabdominal (อัลตร้าซาวด์หน้าท้อง)

: อย่างที่บอก ถ้าเป็นเด็กหรือว่าผนังหน้าท้องบาง ๆ ก็สามารถใช้ตัวนี้ได้ อีกตัวหนึ่งก็คล้าย ๆ ตัว Transabdominal เหมือนกัน ตัวนี้คือ อัลตร้าซาวด์ทางหน้าท้อง แต่ตัวนี้เขาเรียกว่าตัว 4 มิติ สามารถที่จะทำเป็นภาพ 3 มิติ 4 มิติ ในการดูหน้าเด็ก ดูอวัยวะของเด็ก จะใช้ตัวนี้ค่ะ

 

#ด้านนรีเวช ส่วนใหญ่เราก็จะเน้นดู มดลูก ดูรังไข่ ดูพังผืด ดูน้ำในช่องท้องด้านล่างนะคะ

#ด้านสูติ คือ ด้านคนท้อง เราก็จะดูความสมบูรณ์ของทารก อันนี้คือความแตกต่างกันนะคะ

 

Transvaginal Ultrasound (ช่องคลอด) เหมาะสำหรับการตรวจในอุ้งเชิงกรานและในช่วงตั้งครรภ์ต้น ๆ เพราะให้ภาพชัดเจนและละเอียดกว่า

Transabdominal Ultrasound (หน้าท้อง) เหมาะสำหรับการตรวจอวัยวะในช่องท้องรวมถึงการตั้งครรภ์ที่เริ่มขยายตัวมากขึ้นในช่วงครรภ์ที่ 2 หรือ 3

 

"ถ้าเกิดมีอาการผิดปกติ เลือดออกผิดปกติ คลำเจอก้อนที่ท้องน้อย ปวดท้องน้อยโดยไม่ทราบสาเหตุ แนะนำให้มาอัลตร้าซาวด์นะคะ"